สักปากกับฝังสีปาก 2 แบบนี้ต่างกันอย่างไร?

ในปัจจุบัน มีนวัตกรรมแก้ไขปัญหาปากคล้ำหรือแกไขปัญหาปากซีด ทำให้ปากมีสีสัน ดูมีเลือดฝาด ดูสดใสขึ้น มีวิธีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเลเซอร์ปาก การสักปาก การฝังสีปาก เป็นต้น หลายๆคนอาจจะทราบความแตกต่างระหว่างการการฝังสีปาก และ การสักปาก อยู่บ้างแล้ว แต่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า สักปากกับฝังสีปาก ต่างกันอย่างไร? เรามาดูพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าสักปากกับฝังสีปาก ว่ามีความเหมือน และแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

การสักปาก คือการฝังสีหรือเพ้นท์ ด้วยการสักสีลงไปที่บริเวณริมฝีปาก ด้วยเครื่องมือสัก ปัจจุบัน การสักปาก นั้นมีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสีแดง สีชมพู สีส้ม ไปจนถึงการสักปากแบบไล่เฉด โดยการสักปากนี้ เป็นที่นิยมมากจากสมัยก่อน จนปัจจุบัน ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ เพราะนอกจากจะช่วยแก้ไข ปัญหาปากซีด และ เพิ่มสีสันให้ริมฝีปาก ให้มีสีสวยงาม ตามความชอบแล้วนั้น การสักปากนั้น ยังช่วยแก้ไขปัญหา ปากที่ดำคล้ำ ให้หายคล้ำ และกลับมาแลดู อมชมพู หรือมีสีตามที่เราต้องการได้ แต่ในปัจจุบันนั้น มีเทคนิคใหม่เข้ามา เรียกว่าการฝังสีปาก หรือ Nano baby lip พอมาถึงตรงนี้ หลายๆคนอาจจะงงๆ ว่า สักปาก กับ ฝังสีปาก นั้น มีความเหมือน หรือ แตกต่างกันยังไง

สักปากกับฝังสีปาก ต่างกันอย่างไร?

  • สักปาก (tattoo baby lip) คือการใช้เข็มฝังสีเข้าไปฝังไว้ที่ริมฝีปาก เพื่อให้ปากมีสีระเรื่อๆ อมชมพู โดยการสักปากจะเป็นการใช้เข็มฝังจะลึกกว่าการฝังสีปากเพียง 0.5 มิลเท่านั้น เป็นเทคนิคการทำที่ทำมายาวนาน
  • ฝังสีปาก (Nano baby lip) คือการใช้เข็มฝังสีเข้าไปฝังไว้ที่ริมฝีปากเช่นเดียวกันกับการสัก แต่โดยเทคนิคนี้ จะมีเป็นการฝังแบบถนอมผิว ทำร้ายผิวน้อยกว่าการสัก จึ้งเป็นที่นิยมทำในปัจจุบัน และยังให้สีที่เป็นธรรมชาติอีกด้วย

สักปาก Vs ฝังสีปาก แบบไหนเจ็บกว่ากัน

การฝังสีปาก และการสักปากนั้น โดยหลักๆแล้ว เรียกได้ว่าเจ็บน้อยทั้งคู่ ถ้าจะบอกว่าไม่เจ็บเลยก็ไม่ได้ เพราะการสักหรือฝังสีนั้น เป็นการใช้เข็มกรอลงไปบนริมฝีปากของเรา ก็อาจจะมีความรู้สึกบ้าง บางคนอาจจะไม่เจ็บเลย บางคนอาจจะรู้สึกจี๊ดๆ ช่วงแรก ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลเลยล่ะค่ะ เพราะปากเดิมของแต่ละท่านก็มีส่วน เพราะถ้าผิวริมฝีปากที่แข็งและหนา จะมีส่วนทำให้ยาชาซึมลงยากกว่าคนที่มีผิวริมฝีปากที่นุ่ม เป็นเหตุผลแรกที่อาจจะทำให้รู้สึกจี๊ดๆระหว่างทำได้ แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะ จะมีการเติมยาชาให้เรื่อยๆ ระหว่างทำได้ค่ะ

สักปาก Vs ฝังสีปาก หลังทำจะบวมมั้ย?

การสักปากและการฝังสีปากนั้น อาการบวมหลังสัก ขึ้นอยู่กับความไวต่อการระคายเคืองของแต่ละบุคคลร่วมด้วย แต่การฝังสีปากจะเกิดอาการบวมน้อยกว่า การสักปาก หากมีอาการบวมหลังสักหรือฝังสีปาก อาการบวมนั้น จะหายบวมภายใน 1 วัน หรือ ถ้าอยากหายบวมเร็วๆ สามารถทานยาลดบวม ร่วมด้วย อาการบวมจะหายเร็วขึ้น ยาลดบวม สามารถซื้อได้ ที่ร้านขายยา ที่มีเภสัชกรเป็นผู้จัดยาให้นะคะ

สักปาก Vs ฝังสีปาก อาการช้ำหลังทำ

อาการช้ำหลัง สักปากและ หลังฝังสีปาก หลังปากลอกแล้วนั้นอาจจะมีอาการปากช้ำ โดยอาการช้ำจะเกิดขึ้น นั้นขึ้นอยู่กับผิวแต่ละบุคคล แต่การฝังสีปากนั้นเทคนิคนี้จะทำร้ายผิวน้อยกว่าเลยแทบจะไม่มีอาการช้ำหลังทำเลยก็ว่าได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละบุคคลร่วมด้วยนะคะ

โดยอาการช้ำนี้ จะเกิดจากการอักเสบของเซลล์ผิว โดยเซลล์ผิวจะสร้างสารเคมีที่เกิดปฏิกิริยา การอักเสบขึ้นมา ซึ่งสารตัวนี้จะไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดสีเมลานิน Melanins ให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น

จึงเกิดเป็นรอยดำซึ่งจะพบมากในคนเอเชีย หรือ อีกสาเหตุมาจาก การซ้ำเข็มหลังการสัก ซึ่งขั้นตอนที่เข็มและเครื่องสักปั่นกรอสีให้ลงไปในผิวปากนั้นมีแรงกระทบสั่นจากเครื่อง ซึ่งผิวจะสร้าง Melanins ขึ้นมาปกป้องผิว เม็ดสีผิวดำๆ คล้ำๆ นั้นจึงมากองรวมตัวกัน และอาจเกิดจากเลือดที่คั่งภายใต้ริมฝีปาก จนดูเหมือนม่วงช้ำ เช่น สำหรับบางคนผิวบอบบาง ,เป็นแผลง่าย หรือเขียวเป็นจ้ำ ช้ำง่าย จะต้องค่อยๆ รอให้ผิวเข้าที่สักพัก 3-4 อาทิตย์ รอยช้ำนี้จะค่อยๆ หายไป และมีสีดันขึ้นมาอีก ให้เห็นสีชมพูหรือแดง หรือสีที่เราสักลงไปนั้น ชัดขึ้นกว่าเดิม

สักปาก Vs ฝังสีปาก ดูแลรักษาต่างกันมั้ย?

วิธีดูแลรักษาหลังสักปากกับฝังสีปากนั้น มีความเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร เรามาดูกันได้เลยค่ะ

หลังสักปากชมพู ต้องดูแลรักษายังไง
  • หลังสักปาก จะใช้เวลาลอก ประมาณ 3-4 วัน บางท่านอาจจะนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนประกอบด้วยค่ะ
  • หมั่นทาเจลบำรุงริมฝีปาก ที่ได้รับจากทางร้าน บ่อยๆ เวลารู้สึกตึงๆ เพื่อให้ปากมีความชุ่มชื้นมากพอ อาการลอกจะได้ไม่รุนแรง และ แผลจะได้หายเร็วขึ้น
  • ห้ามแกะ ห้ามเกา ผิวปากขณะกำลังตกสะเก็ดเด็ดขาด เพราะ อาจจะไปดึงเอาเนื้อที่ยังไม่ลอก หรือเนื้อแท้ออกมาด้วย ทำให้เกิดแผลเป็น สีไม่ติด และอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ เพราะ เนื่องจากมือของเราอาจจะมีแบททีเรียติดอยู่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบ่อยๆและสัมผัสรุนแรงเด็ดขาด เช่นแกะ เกา ถู เช็ด จูบ เม้มปากแรงๆ หรือเลียริมฝีปาก
  • ดื่มน้ำให้เยอะๆ และ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้เซลล์มีการผลัดผิวได้ตามปกติ *ดื่มน้ำให้ใช้หลอดทุกครั้ง
  • งด ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกชนิด
  • หลังสักปาก ห้ามให้ปากโดนน้ำ จนกว่าจะลอกหมดนะคะ ให้ทำความสะอาดหน้าโดยการเช็ดหน้าไปก่อน โดยใช้ทิชชูเปียก หรือสำลี เช็ดทำความสะอาด ส่วนการแปรงฟัน ให้เปลี่ยนแปรง เป็นแปรงเด็ก บีบยาสีฟันน้อยๆ แล้วแปรงเลย (ไม่ต้องจุ่มน้ำก่อนแปรง) ฟองจะได้ไม่ล้นออกมามากเกินไป เวลาบ้วนปาก ให้ใช้หลอดดูดน้ำบ้วนปาก ** แนะนำให้ทายาหรือเจลที่ทางร้านให้หลังสัก ทาบริเวณริมฝีปาก ก่อนแปรงฟัน เพื่อป้องกันปากโดนน้ำโดยตรง นะคะ หากปากลอกหมดแล้วสามารถโดนน้ำได้เลย
  • งดทานอาหารที่มีรสจัด ส้มตำ ของหมัก ของดอง ปลาร้า แหนม หรืออาหารประเภทน้ำๆ อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน มาม่า งดไปก่อนนะคะ ช่วงที่ปากยังลอกไม่หมด แนะนำให้ทานอาหารแห้งๆ ที่ทานง่ายๆไปก่อน เช่น ข้าวผัด ข้าวหมูทอดกระเทียม ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นต้น
  • หลังจากปากลอกหมดแล้ว ให้งดอาหารเผ็นร้อนต่ออีกซัก 2-3 วัน
  • หากต้องออกจากบ้าน ควรจะต้องใช้แมสปิดปาก เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และการติดเชื้อ
  • งดทาลิปสติก จนกว่าปากจจะลอกหมด และหลังจากปากลอกหมดควรรอซัก 2-3 วัน ถึงจะทาลิปสติกได้นะคะ
หลังฝังสีปาก ต้องดูแลรักษายังไง
  • หลังฝังสีปาก จะใช้เวลาลอก ประมาณ 3-4 วัน บางท่านอาจจะนานกว่านี้ ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วยค่ะ
  • หากหลังฝังสีปาก หากรู้สึกปากแห้ง ให้บำรุงริมฝีปากด้วย aftercare oil ที่ทางร้านให้ไป
  • ห้ามแกะ ห้ามเกา ผิวปากขณะกำลังตกสะเก็ดเด็ดขาด เพราะอาจจะไปดึงเอาเนื้อที่ยังไม่ลอกหรือเนื้อแท้ออกมาด้วย ทำให้เกิดแผลเป็น สีไม่ติด และอาจจะเกิดการติดเชื้อได้ เพราะเนื่องจากมือของเราอาจจะมีแบททีเรียติดอยู่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสบ่อยๆ และสัมผัสรุนแรงเด็ดขาด เช่นแกะ เกา ถู เช็ด จูบ เม้มปากแรงๆ หรือเลียริมฝีปาก
  • ดื่มน้ำให้เยอะๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้เซลล์มีการผลัดผิวได้ตามปกติ *ดื่มน้ำให้ใช้หลอดทุกครั้ง
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทุกชนิด
  • หลังฝังสีปาก สามารถโดนน้ำได้ แต่ควรระวังเรื่องสบู่ โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน ให้ใช้ชนิดอ่อนๆ ไปก่อนนะคะ
  • งดทานอาหารที่มีรสจัด ส้มตำ ของหมัก ของดอง ปลาร้า แหนม หรืออาหารประเภทน้ำๆ อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน มาม่า งดไปก่อนนะคะ ช่วงที่ปากยังลอกไม่หมด แนะนำให้ทานอาหารแห้งๆ ที่ทานง่ายๆไปก่อน เช่น ข้าวผัด ข้าวหมูทอดกระเทียม ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เป็นต้น หลังทานอาหารทุกครั้ง ควรเช็ดทำความสะอาดริมฝีปากด้วยน้ำเกลือ ทุกครั้ง
  • หลังจากปากลอกหมดแล้ว ให้งดอาหารเผ็นร้อนต่ออีกซัก 2-3 วันนะคะ
  • หากต้องออกจากบ้าน ควรจะต้องใช้แมสปิดปาก เพื่อป้องกันฝุ่นละออง และการติดเชื้อ
  • งดทาลิปสติก จนกว่าปากจจะลอกหมด และหลังจากปากลอกหมด ควรรอซัก 2-3 วัน ถึงจะทาลิปสติกได้นะคะ

สักปาก Vs ฝังสีปาก การติดของสี แบบไหนสีติดดีกว่ากัน ?

ถามว่าแบบไหนติดดีกว่ากัน ทั้งสองแบบนั้น การสักปากและการฝังสีปาก ทั้งสองแบบนี้สีจะติดระเรื่อๆ ประมาณ 30-50% โดยการติดของสีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลร่วมด้วย

หากปากซีด หรือ ปากเดิมไม่คล้ำ การสักปากและการฝังสีปากนั้น ลงเพียงรอบเดียวก็น่าจะเพียงพอ แต่หากปากคล้ำ(คล้ำไม่มาก) การสักปากหรือฝังอาจจะต้องลงถึง 2 รอบ โดยกรณีปากคล้ำนี้ รอบแรกนั้น จะเป็นการลงสีส้มสว่าง เพื่อแก้ไขปากคล้ำก่อน รอบแรก เพราะสีนี้จะเป็นสีหลักที่ใช้ในการแก้ปากคล้ำ ** ระยะเวลาในการเติม 2 เดือนเริ่มเติมได้

*** กรณีที่คล้ำมากๆ การสักปากหรือฝังสีปากนั้น ก็จะต้องทำอย่างน้อย 2-3 รอบ ผลลัพธ์ที่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพผิว ของแต่ละบุคคลประกอบด้วย

โดยความคงทนของการสักปากกับฝังสีปากนั้น โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 2-4 ปี บางท่านอาจจะเคยได้ยินมาว่า สักปากนั้น สีจะติดถาวร และฝังสีจะไม่ติดถาวร ข้อนี้ไม่ถูกต้องนักนะคะ ทั้งการสัก และการฝังสี เป็นแบบกึ่งถาวร สีจะค่อยๆซีดจาง ไปตามกาลเวลา ถ้าอยากให้สีชัดเจน คงทน ควรเติมสีเรื่อยๆ ทุกปี เพราะถ้าไม่เติม สีก็จะซีดจาง ไปตาม กาลเวลา

สักปาก Vs ฝังสีปาก ราคาต่างกันมั้ย?

การฝังสีปากโดยส่วนมากจะมีราคาสูงกว่าสักปากเพราะ เวลาในการทำ ขั้นตอนในการทำ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นอยู่กันแต่ละพื้นที่ และโปรโมชั่น ของแต่ละคลินิก ราคาเริ่มต้นจาก หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นก็มี ดังนั้น หากสาวๆ หรือหนุ่มๆ จะตัดสินใจ ควรเลือกร้านให้ดีๆ ได้มาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพนะคะ

Follow us on social media