เดี๋ยวนี้การสักคิ้วเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเทคนิคการสักคิ้วสมัยนี้พัฒนาขึ้นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วเป็นการสักแบบกึ่งถาวร ที่จะอยู่ได้เพียง 2-3 ปี นานสุดก็ 5 ปี และมีแบบให้เลือกมากมาย
ในปัจจุบันสาวส่วนใหญ่นิยม สักคิ้วธรรมชาติ ที่กลืนไปกับคิ้วเดิมเรามากที่สุด มีแบบให้เลือกหลากหลายทั้งคิ้วหกมิติ คิ้วสามมิติ คิ้วสเปรย์ไฮไลต์ คิ้วสไลด์ และแบบอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งชื่อของแต่ละแบบจะเรียกตามเทคนิคที่ช่างใช้ เอาล่ะ ทีนี้เรามาว่าด้วยเรื่องพัฒนาการของเทคนิคการสักคิ้วจากอดีต จวบจนปัจจุบันซึ่งการ สักคิ้วธรรมชาติ ในอดีตไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก ด้วยเทคนิคและเทรนด์การเขียนคิ้วในสมัยนั้นร่วมด้วย
ว่าด้วยเรื่อง คิ้ว ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากๆของใบหน้า ที่ช่วยเสริมสร้างให้ใบหน้าดูสวยงาม ดูดี และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เราจึงต้องมีการตกแต่งทรงคิ้วเพื่อให้ดูโดดเด่นสวยงามอยู่เสมอ การสักคิ้วนั้นเป็นอีกนวัตกรรมการเสริมความงามนั้นมีตั้งแต่อดีต จวบจนถึงปัจจุบัน นวัตกรรมของการสักคิ้วจึงได้มีพัฒนากันอย่างต่อเนื่องตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เพื่อให้การตกแต่งคิ้วสวยงามและเป็นธรรมชาติ เหมือนคิ้วจริงมากที่สุด วิวัฒนาการของการสักคิ้ว จึงแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
ประเภทที่ 1 การสักคิ้วแบบเต็มคิ้ว (ช่วงยุคปี 70-80 )
การสักคิ้วแบบเต็มคิ้ว หรือการสักคิ้วถาวรเป็นการสักแบบระบายสีทึบไปทั่วทั้งคิ้ว โดยการใช่เครื่องสักไฟฟ้าและเข็ม จุ่มสีแล้วจิ้มลงไปบนผิวหนัง ด้วยแรงสั่นสะเทือนของปลายเข็มจะปั่นกรอผิวหนังชั้นกำพร้า ลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ และปล่อยสีให้ซึมฝังเข้าติดเนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นใหม่ภายในชั้นหนังแท้ การสักแบบเต็มคิ้วนี้ จะทำให้สีเข้มเท่ากันหมด ทั้งคิ้ว จึงทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ประเภทที่ 2 การสักแบบเต็มคิ้ว 3 มิติ (ช่วงยุคปี 90 )
การสักแบบเต็มคิ้วสามมิติ หรือการเพ้นท์คิ้ว หรือ การแรเงาคิ้ว เป็นการสักคิ้วแบบระบายสีทั้งคิ้ว คล้ายการสักคิ้วแบบประเภทที่ 1 แต่จะมีการไล่โทนสี โดยการลลดสีที่ลงหัวคิ้วให้จางลง และเน้นสีเข้มที่บริเวณหางคิ้ว เพื่อให้ได้คิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักคิ้วแบบประเภทที่ 1
ประเภทที่ 3 การสักคิ้วสามมิติ ลายเส้นแบบใช้เครื่องสักไฟฟ้าและเข็ม (ช่วงยุคปี 2000)
เป็นการสร้างลายเส้นเสมือนขนคิ้วจริง โดยการสักเป็นเส้นๆ ด้วยเครื่องสักไฟฟ้า ขนาดของเส้นนั้นขึ้นอยู่กับการควบคุมการสั่นสะเทือนของเครื่องและปลายเข็ม เพื่อให้ได้เส้นที่เล็ก และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด การสักแบบนี้จะให้แผลที่กว้าง เนื่องจากเป็นการลงเข็มซ้ำๆ ที่เดิมหลายรอบ สีจะติดทนนาน สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 แต่เส้นที่ได้ก็ยังดูหนากว่าคิ้วจริง
ประเภทที่ 4 การสักคิ้วสามมิติลายเส้นแบบใช้ด้ามปากกาและใบมีดหรือเข็มชุด (ปัจจุบัน)
การสักแบบนี้เป็นการสร้าลายเส้นเสมือนขนคิ้วจริง โดยการสักเป็นเส้นๆ ด้วยด้ามปากกาและใบมีดหรือเข็มชุด การสักแบบนี้จะทำให้เกิด ร่องเส้น หรือเรียกว่าร่องแผล ซึ่งจะให้แผลที่เล็ก และแคบกว่าการสักประเภทที่ 3 จึงทำให้ได้เส้นคิ้วที่เส้นเล็กและละเอียด คมชัด พริ้วสวย ดูเป็นธรรมชาติเมือนคิ้วจริงมากที่สุด และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
อ่านจบแล้ว ทุกคนคงได้ทราบแล้วว่าการสักคิ้วในปัจจุบันนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีสาวๆจำนวนไม่น้อยที่ยังคงติดภาพเดิมๆของการสักคิ้วสมัยก่อน ทำให้ไม่กล้าที่ะตัดสินใจสักคิ้ว หลังจากนี้ก็เปลี่ยนมุมมองกันใหม่นะคะสาวๆ
แต่ว่า ไหนๆก็มาคุยกันเรื่องการสักคิ้วจากอดีตจนถึงปัจจุบัน วันนี้เราจึงนำทรงคิ้วที่เป็นที่นิยมมาก จากตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบันมาฝากกัน เรามาดูกันเลยค่าาา
1920s
ยุคนี้ สาวๆ กระหน่ำถอนขนคิ้วแล้ววาดเส้นใหม่ที่ลากยาวออกไปเลยขอบดวงตาการแสดงก็ต้องโอเวอร์แอคติ้งกันขั้นสุดคือคิ้วทรงนี้เนี่ยจะช่วยในการแสดงออกทางสีหน้า เพราะสมัยก่อนมันเป็นหนังเงียบ ที่มีคิ้วบางเป็นเส้นตรงหางคิ้วตกอันแสนโดดเด่น (Pencil Thin Eyebrows) ในยุคแจ๊สนี้มีนักแสดงสาวระดับตำนานอย่าง Clara Bow แนะนำให้นึกถึงหนังเรื่อง The Great Gatsbyถ้าสาวๆ ไม่เห็นภาพว่ายุค 20s เป็นอย่างไร ?

1930s
ยุคนี้ ดูตัวอย่างจากคิ้วของดาราสาว Jean Harlow เป็นต้นให้กลายเป็นสาวก๋ากั่นดราม่าติค แอบมีลุคนางมารร้ายนิดๆบางทีก็ฟาดกันขึ้นไปถึงขมับเลยทีเดียว ถือเป็นการฉีกลุคสาวน่าสงสารๆ ขี้อ้อนๆแต่แทนที่จะวาดเป็นเส้นตรงหางตก สาวๆ ในยุคนั้นกลับวาดมันให้โก่งโค้งขึ้นไปอีกเทรนด์คิ้วในยุค 30s มีรากฐานมาจาก 20s เลยค่ะ

1940s
เสื้อผ้าหน้าผมยุคนี้ก็อาจดูไม่ได้มีลูกเล่นอะไรมากถ้าดูตามประวัติศาสตร์แล้วยุคนี้เป็นยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2พอคิ้วมันหนาขึ้นนิดนึง ความเป็นผู้หญิงอ่อนหวานก็มาทันทีเลยค่ะสังเกตได้ว่าคิ้วจะไม่มาเป็นเส้นหนาๆ เปรี้ยงๆ อีกต่อไป แต่เริ่มเน้นให้มันธรรมชาติมากขึ้นในยุคนี้สาวๆเริ่มเขียนคิ้วกันให้ซอฟท์ลงแล้วค่ะ แต่ก็ยังนิยมคิ้วโก่งกันอยู่

1950s
เรียกช่วงเวลานี้ว่า ’ยุคทองของคิ้ว’ เพราะเป็นยุคแห่งความฟู่ฟ่าเลยค่ะ
เทรนด์ในยุคนี้คือการเป็นผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มค่ะ งานคิ้วนี่ต้องเด่นและปัง!
คิ้วในยุคนี้หนาขึ้นมาทันตา แต่ก็ยังนิยมทรงคิ้วโก่งกันอยู่หรือดาราสาวขวัญใจประชาชนที่จะลืมกล่าวถึงไปไม่ได้เลยคือ Audrey Hepburnไม่ว่าจะเป็น Elizabeth Taylor, Marilyn Monroeเอาละสิ ยุคนี้คือความ Glam มาเต็ม

1960s
วาดคิ้วขึ้นมาใหม่เนี่ยเพราะอยากให้คิ้วแลดูเป็นธรรมชาติเรียงกันเป็นเส้นๆพระเจ้า! คือยุคนี้เนี่ยสาวๆ เค้าจะกันคิ้วออกให้หมด แล้วค่อยๆ วาดใหม่ทีละเส้นๆ กันเลยทีเดียวและยังเป็นยุคของแฟชั่นไอคอนระดับตำนานอย่าง Twiggy เป็นยุคที่มีความสนุกสนาน เพราะนี่เป็นยุคของ The Beatles, กระโปรงมินิเสกิร์ต

1970s
ในยุคนี้ ‘Bianca Jagger’ ไอดอลยุค 70s ที่เราหลงรักหัวคิ้วก็เริ่มนิยมให้เป็นทรงกลมมนมากขึ้นด้วย ไม่มีการปรุงแต่งเลยแม้แต่น้อย สาวๆ ยุคนี้เริ่มกันคิ้วกันน้อยลงแล้วค่ะพวกเธอนิยมคิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ เหมือนกับว่าคิ้วเธอมาแบบนี้ตั้งแต่เกิดสาวฮิปปี้ free spirit รักธรรมชาติแห่งยุค 70s ไม่เสียเวลากันคิ้วให้โก่งหรือวาดคิ้วขึ้นมาใหม่หรอกเหมือนยุค 60s

1980s
ยุคนี้เป็นยุคที่น่าสงสารสำหรับสาวๆ คิ้วบางอย่างเราๆ จริงๆ เมื่อผมจัดเต็มแล้วคิ้วจะไปน้อยหน้าได้อย่างไรคะ?คือผมของสาวๆยุคนี้จะอัดสเปรย์ไปประมาณครึ่งกระป๋อง เอาให้พองถึงที่สุดไม่เชื่อลองไปหาหนังเก่าๆ ยุค 80s ดูเช่น Dirty Dancing หรือ Top Gun ดูได้
ยุคนี้คือยุครุ่งเรืองของขนบนร่างกายกันเลยนะคะไม่ต้องตกแต่งไม่ต้องถอนอะไรมันทั้งสิ้น ยุคนี้เนี่ยนึกถึงคิ้วของขุ่นแม่ Madonna นะคะ คือปล่อยมันรกชัฎอยู่แบบนั้นล่ะค่ะถ้าสาวๆ อยากทำคิ้วให้เป็นทรง 80s ทำตามนี้นะคะ เดินไปที่ลิ้นชักแล้วหยิบแหนบโยนทิ้งไปเลยค่ะ!

1990s
คือคิ้วยุคนี้เนี่ยเราๆ ก็เห็นกันอยู่นะคะในสมัยนี้ แต่เห็นแล้วเราก็รู้สึกว่ามันเชยระเบิดระเบ้อชะมัดหรือของซุปเปอร์โมเดลตัวแม่ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Kate Moss, Pamela Andersonดูตัวอย่างได้จากคิ้วของสาว Drew Barrymore ดารายุค 90s ที่ทุกคนรักทั้งถอนทั้งแว็กซ์มันเข้าไป คิ้วยุคนี้โก่งเล็กน้อยแต่บางสุดๆ เชื่อว่าหลายๆคนเกิดทันยุคนี้ 90s คือยุคแห่งการถอนค่ะ

ปัจจุบัน
เทรนด์เนี่ยเดี๋ยวก็มาเดี๋ยวก็ไป แต่คิ้วสวยๆ มันจะอยู่กับเราไปตลอดจริงๆ ค่ะ ลองหยุดมองกระจกแล้วเลือกดูดีกว่าว่าทรงไหนมันใช่เรามากที่สุดเพราะฉะนั้น แทนที่สาวๆ จะวิ่งตามเทรนด์สุดฤทธิ์สุดเดชบางวันจะสวยไม่สวยเนี่ย คิ้วเป็นตัวตัดสินเลยนะเห็นได้ชัดว่างานคิ้วนี่สำคัญต่อ look เรามากมาย ยุคนี้จะเน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่โก่งเกินไป แต่เทรนด์คิ้วยุคนี้ต้องยอมรับว่าหลากหลายมากจริงๆ
