การสักคิ้วเพื่อความงาม

การสักคิ้วเพื่อความงาม วิวัฒนาการก้าวใหม่ด้านการเสริมความงามของคิ้ว คือการสักคิ้วหรือการเขียนคิ้วถาวร เป็นการสักลงสีบริเวณคิ้ว ทำให้สีติดแน่นคงทนลบไม่ออก ไม่ต้องเขียนใหม่ทุกทุกวัน หรือทุกครั้งที่ล้างหน้า เกิดความสะดวกสบายและประหยัดเวลา นับเป็น การสักเพื่อความสวยความงามในปัจจุบันที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม

การสักคิ้วหรือการเขียนคิ้วถาวร เพิ่งเป็นที่นิยมในเมืองไทยมาได้ไม่นานมากนัก เชื่อว่าเป็นแนวที่นิยมมาจากประเทศจีนและเกาหลี ซึ่นิยมสักคิ้วเป็นจำนวนมาก การเขียนคิ้วถาวรใช้หลักการเดียวกันกับการสัก โดยการใช้เข็มจุ่มสีแล้วจิ้มลงไปในผิวหนัง ทำให้สีติดค้างถาวร

การสักตามร่างกาย เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของมนุษย์สมัยโบราณ เกิดขึ้นเมื่อ 3,500 กว่าปีมาแล้ว สมัยกรีก โรมัน อียิปต์ จีน ญี่ปุ่น โดยมีความเชื่อที่แตกต่างกัน นักวิทยาศาสตร์ ได้กล่าวถึงรอยสักไว้หลายคน บางคนอาจกล่าวว่า ลายสักและความนิยมในการสักมีขึ้นในหมู่มนุษยชาติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 ปี การสักเพื่อความมีเสน่ห์ สิริมงคลและการสักเพื่อความสวยงาม

ความหมายของการสัก

การสักคิ้วเพื่อความงาม

รอยสัก หรือ tattoo หมายถึงการตี หรือเคาะ ซึ่งเกิดจากการสักด้วยเครื่องสัก หรือ อาจจะใช้เข็มซึ่งมีด้ายร้อยเคลือบสีอยู่ แทงผ่านตามตำแหน่งที่ต้องสักลงไปที่ผิวหนัง โดยการสักเจาะร่างกาย

ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า สัก คือ เอาของแหลมแทงแล้วลงวิธีการหรือเพื่อประโยชน์ต่างๆ เช่น การสักปลาไหล การสักหาของในน้ำ สักรอยช้ำ เพื่อรีดเอาเลือดที่คั่งออก ใช้เหล็กแหลมจุ่มหมึกหรือน้ำมันแทงที่ผิวหนังเพื่อให้เป็นอักขระ เครื่องหมายหรือลวดลาย ถ้าใช้หมึกเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน ถ้าใช้หมึก เรียกว่า สักหมึก ถ้าใช้น้ำมัน เรียกว่าสักน้ำมัน (โบ) ทำเครื่องหมาย โดยใช้เหล็กแหลม จุ่มหมึกแทงที่ผิวหนังเพื่อแสดงเป็นหลักฐาน เช่น สักข้อมือ แสดงว่าได้ขึ้นทะเบียนเป็นชายฉกรรจ์หรือมีสังกัดกรมกองแล้ว สักหน้า แสดงว่าเป็นผู้ที่ต้องโทษปาราชิก เป็นต้น

คิ้ว

คิ้ว ( eyebrow) เป็นเส้นขนที่ละเอียดอ่อนที่ขึ้นเรียงตัวกันเป็นแนวจนมองเห็นเป็นของเขตของคิ้วได้ ตำแหน่งของคิ้วอยู่บนบริเวณหน้าผาก เหนือดวงตาทั้งสองข้าง สีของคิ้วจะเป็นสีเดียวกับสีผมหรือสีของขนตา โดยมากจะมีสีเข้มกว่าขนเล็กๆ ที่ปกคลุมอยู่ทั่วไปตามร่างกาย ความหนา และสีนั้นแตกต่างไปแต่ละบุคคล

คิ้ว ทำหน้าที่ในการช่วยปกป้องไม่ให้เหงื่อไหล น้ำไหล เข้าสู่ดวงตา อันเป็นอวัยวะที่สำคัญในการมองเห็น จะสังเกตเห็นว่า เหงื่อ น้ำ จะไหลไปตามแนวโค้งของขนคิ้วออกสู่ข้างแก้ม นอกจากนี้คิ้วยังคอยดักฝุ่น แมลงเล็กๆ หรืออาจจะเป็นรังแค ไม่ให้ตกใสดวงตาโดยตรง

คิ้วยังเป็นส่วนสำคัญในการสื่อสาร การแสดงออกความรู้สึก การแสดงสีหน้าทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ นอกจากนี้คิ้วยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้า คิ้วสามารถทำให้ใบหน้าดูสมบูรณ์ หรือขาดเกินได้

คิ้วของแต่ละคนที่ได้มาตามธรรมชาติก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนมีคิ้วที่ได้รูปและได้ถูกจัดเรียงไว้ดกดำ สวยงาม แต่บางคนมีคิ้วบางไปไม่ได้รูป การตกแต่งคิ้วจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการมีคิ้วสวยงามได้รูปทรงที่เหมาะสมนั้น ทำให้ใบหน้าดูสวยโดดเด่นได้ ไม่แพ้จุดอื่น บนใบหน้า

วิธีการเสริมความงามของคิ้ว

วิธีการเสริมความงามของคิ้วนั้น ได้รับการพัฒนาและปรับเปลี่ยนหลากหลายวิธี ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็นการเพิ่ม ลด เปลี่ยนสี หรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งของคิ้ว เพื่อแก้ปัญหาหรือทำให้คิ้วได้รูป สวยงาม คมเข้มและเหมาะสมกับใบหน้ามากที่สุด ซึ่งมีหลากหลายวิธี เช่น การถอน การกัน การเล็ม การแว๊กซ์ การเขียน การเพ้นทื ซึ่งวิธีการเหล่านี้ก็ยังเป็นวิธีการชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งจะต้องทำใหม่ทุกวัน หรือทุกครั้งที่เราต้องการ

ดังนั้น วิธีการที่สามารถแก้ปัญหา และทำให้คิ้วได้รูปทรงสวยงาม คมเข้มได้อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องเขียน ไม่ต้องเพิ่มเติมระหว่างวัน และรวดเร็วทันใจ นั้นคือวิธีการสักคิ้ว ซึ่งนับเป็นทางออกที่ดี และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน

โดยวิวัฒนาการของการสักคิ้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

การสักคิ้วเพื่อความงาม
ประเภทที่ 1 การสักคิ้วแบบเต็มคิ้ว (ช่วงยุคปี 70-80 )

การสักคิ้วแบบเต็มคิ้ว หรือการสักคิ้วถาวรเป็นการสักแบบระบายสีทึบไปทั่วทั้งคิ้ว โดยการใช่เครื่องสักไฟฟ้าและเข็ม จุ่มสีแล้วจิ้มลงไปบนผิวหนัง ด้วยแรงสั่นสะเทือนของปลายเข็มจะปั่นกรอผิวหนังชั้นกำพร้า ลงสู่ชั้นผิวหนังแท้ และปล่อยสีให้ซึมฝังเข้าติดเนื้อเยื่อที่สร้างขึ้นใหม่ภายในชั้นหนังแท้ การสักแบบเต็มคิ้วนี้ จะทำให้สีเข้มเท่ากันหมด ทั้งคิ้ว จึงทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ

ประเภทที่ 2 การสักแบบเต็มคิ้ว 3 มิติ (ช่วงยุคปี 90 )

การสักแบบเต็มคิ้วสามมิติ หรือการเพ้นท์คิ้ว หรือ การแรเงาคิ้ว เป็นการสักคิ้วแบบระบายสีทั้งคิ้ว คล้ายการสักคิ้วแบบประเภทที่ 1 แต่จะมีการไล่โทนสี โดยการลลดสีที่ลงหัวคิ้วให้จางลง และเน้นสีเข้มที่บริเวณหางคิ้ว เพื่อให้ได้คิ้วที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักคิ้วแบบประเภทที่ 1

ประเภทที่ 3 การสักคิ้วสามมิติ ลายเส้นแบบใช้เครื่องสักไฟฟ้าและเข็ม (ช่วงยุคปี 2000)

เป็นการสร้างลายเส้นเสมือนขนคิ้วจริง โดยการสักเป็นเส้นๆ ด้วยเครื่องสักไฟฟ้า ขนาดของเส้นนั้นขึ้นอยู่กับการควบคุมการสั่นสะเทือนของเครื่องและปลายเข็ม เพื่อให้ได้เส้นที่เล็ก และดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด การสักแบบนี้จะให้แผลที่กว้าง เนื่องจากเป็นการลงเข็มซ้ำๆ ที่เดิมหลายรอบ สีจะติดทนนาน สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น ทำให้ดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการสักประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 แต่เส้นที่ได้ก็ยังดูหนากว่าคิ้วจริง

ประเภทที่ 4 การสักคิ้วสามมิติลายเส้นแบบใช้ด้ามปากกาและใบมีดหรือเข็มชุด (ปัจจุบัน)

การสักแบบนี้เป็นการสร้างลายเส้นเสมือนขนคิ้วจริง โดยการสักเป็นเส้นๆ ด้วยด้ามปากกาและใบมีดหรือเข็มชุด การสักแบบนี้จะทำให้เกิด ร่องเส้น หรือเรียกว่าร่องแผล ซึ่งจะให้แผลที่เล็ก และแคบกว่าการสักประเภทที่ 3 จึงทำให้ได้เส้นคิ้วที่เส้นเล็กและละเอียด คมชัด พริ้วสวย ดูเป็นธรรมชาติเมือนคิ้วจริงมากที่สุด และกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน

อ่านจบแล้ว ทุกคนคงได้ทราบแล้วว่า การสักคิ้วเพื่อความงาม ในปัจจุบันนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีสาวๆจำนวนไม่น้อยที่ยังคงติดภาพเดิมๆของการสักคิ้วสมัยก่อน ทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจสักคิ้ว หลังจากนี้ก็เปลี่ยนมุมมองกันใหม่นะคะสาวๆ

Follow us on social media